ในวัฒนธรรมการดื่มชาของคนจีน ชาเป็นสัญลักษณ์ของมิตรไมตรี และการต้อนรับด้วยความยินดี เมื่อมีแขกมาเยือนถึงที่บ้านต้องต้อนรับด้วยชาร้อนหนึ่งถ้วย ซึ่งถือเป็นมิตรไมตรีอันอบอุ่นจากเจ้าของบ้าน ปัจจุบันธรรมเนียมปฏิบัติเหล่านี้ แทบจะหาดูได้ยาก นอกจากชาวจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งดื่มชาต่างน้ำแล้ว ประเทศทางตะวันออกกลางอย่าง ตุรกี อิรัก อียิปต์ ซีเรีย จอร์แดน ฯลฯ ก็ดื่มชากันมากเหมือนกัน
วัฒนธรรมการดื่มชา หมายรวมถึงการชงชา การชมชา การดมกลิ่น การดื่มชา และการชิมชา โดยผ่านการพัฒนา และปรับปรุงกันมาอย่างไม่หยุดยั้ง กระทั่งเกิดเป็นความเคยชินและความเคยชินนี้ได้ค่อยๆก่อตัวขึ้นจนกลายเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมของจีน
วัฒนธรรมการดื่มชานั้น มีชาเป็นตัวขับเคเป็นการหลอมรวมกันระหว่างชากับวัฒนธรรม ในขณะเดียวกัน วัฒนธรรมการดื่มชาก็ยังเป็นการผนวกศิลปะการชงชาเข้ากับจิตใจ อีกทั้งยังสามารถแสดงถึงความรู้สึกทางจิตวิญญาณผ่านศิลปะการชงชาได้
พิธีชงชาจึงประหนึ่งเป็นการหลอมรวมที่เข้ากันได้อย่างงดงามระหว่างศิลปะการชงชากับจิตใจ เราสามารถแสดงออกถึงมารยาท อุปนิสัยใจคอ ท่วงทำนองความคิด มุมมองทางสุนทรียศาสตร์ และมโนคติผ่านวิถีการชิมชาได้พิธีการชงชาของจีน ให้ความสำคัญและพิถีพิถันกับความงดงามทั้ง 5 อย่างอันได้แก่ ใบชา น้ำชา ความแรงของไฟ เครื่องมือชงชา และสภาพแวดล้อม
วัฒนธรรมการดื่มชาในประเทศต่างๆ
วัฒนธรรมชาสไตล์จีน
ชากับชาวจีน
การดื่มชาของจีน จัดเป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องทำตอนตื่นนอน มีร้านชาอยู่ทั่วทุกมุมถนน คนจีนถือว่าการดื่มชาเป็นวิธีสร้างสัมพันธ์กับบุคคลในครอบครัว พิธียกน้ำชาในงานแต่งงานเป็นการแสดงความขอบคุณต่อพ่อแม่ ผู้ใหญ่ ฉะนั้นจะเห็นว่าชา เป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรมจีนมาก ชาที่ดื่มส่วนใหญ่คือ ชาดำ ชาอู่หลง และจะไม่เติมนม หรือน้ำตาลใดๆลงในชา
http://www.traphukao.com/articles/100-tea-time
ชากับชาวญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่ผู้คนนิยมดื่มชากันอย่างแพร่หลาย แม้ว่าชาวญี่ปุ่นยุคใหม่จะหันมาสนใจเครื่องดื่มใหม่ ๆ อย่างกาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มอื่น ๆ แต่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็จะยังคงดื่มน้ำชา ชาที่ชาวญี่ปุ่นนิยมดื่มทั้งในชีวิตประจำวันและที่ใช้ในพิธีชงชา คือ “ ชาเขียว ”
ส่วนทางตะวันตก ประเทศที่นิยมดื่มชากันมากที่สุด คือ อังกฤษและไอซ์แลนด์ ขณะที่ชาวอเมริกันและฝรั่งเศสดื่มชากันน้อยมาก แต่ดื่มกาแฟเป็นหลัก ชาวอังกฤษไม่นิยมดื่มชาเขียวจะนิยมดื่มชาดำ ซึ่งก็คือใบชาที่ผ่านการหมัก ซึ่งจะให้น้ำชาสีเข้ม และรสชาติที่เข้มข้นกว่า เหมาะกับรสนิยมของชาวอังกฤษ อีกทั้งยังนิยมเติมน้ำตาลและนมเพื่อเพิ่มรสชาติของชา พวกเขามีช่วงเวลาในช่วงบ่ายแก่ๆ สำหรับดื่มชา เรียกว่า Tea Time ซึ่งการดื่มชามักคู่กับแซนด์วิชชิ้นเล็กๆ ขนมปังสโคนส์ (Scones) ซึ่งเป็นขนมปังก้อนเนื้อร่วน กินกับแยมและครีม และอาจมีของหวานชิ้นเล็กๆ กินพอดีคำร่วมด้วย ชาที่คนอังกฤษดื่มส่วนใหญ่เป็นชาดำใส่นมและน้ำตาล
ชากับชาวไทย
การดื่มชาของคนไทยนั้นดื่มแบบชาจีนไม่ใส่น้ำตาล ปัจจุบันนิยมดื่มชาคู่กับขนมหวาน